เพชรบูรณ์ – วงจรปิดจับภาพกระบะชนยายหลานเจ็บหนัก ซิ่งรถหนีลอยนวล ญาติวอนให้กลับมารับผิดชอบ
วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มียายวัย 72 ปี กับหลานวัย 10 ขวบถูกรถยนต์กระบะขับชนท้ายขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปหาลูกชาย ที่บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพรบูรณ์ ทำให้ยายและหลานวัย 10 ขวบได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่คนขับรถยนต์กระบะใจดำกลับไม่จอดรถ ไม่สนใจใยดี ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่โชคยังดีมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ญาติวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตัวคนขับรถกระบะดังกล่าวมารับผิดชอบ
จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ คุณยายทองม้วน บุศย์น้ำเพชร อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 102/1 หมู่ 5 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บหลายแห่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของเมื่อวาน (14 ต.ค.63) ตนขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะไปหาลูกชาย โดยให้น้องเจญ่า อายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นหลานสาวซ้อนท้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็รู้สึกว่าถูกกระแทกจากด้านท้ายจนรถและตัวคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง พอรู้สึกตัวก็เห็นชาวบ้านมามุงดู ตนรีบมองหาหลาน และมองเห็นหลานนอนฟุบอยู่กลางถนน จึงได้รีบคลานไปอุ้มหลานมากอดไว้ และพบว่าที่บริเวณปากของหลาน มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตามลำตัว แขนขา ก็มีเลือดออกเช่นกัน โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถจักรยานยนต์ของตนเองถูกรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีบรอนด์ชนท้าย และรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้มีพลเมืองดีจึงโทรแจ้งโรงพยาบาลให้มาช่วยเหลือ ตนจึงอยากขอวิงวอนให้ผู้ที่ขับรถกระบะชนตนเองและหลาน เข้ามาดูแลและรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
ด้านนางสาวพัณณ์นิภา บุศย์น้ำเพชร อายุ 26 ปี ลูกสาวของคุณยายทองม้วน บุศย์น้ำเพชร เปิดเผยว่าหลังจากตนทราบว่าแม่และหลานถูกรถชนจึงรีบมาดูก็พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังนำตัวขึ้นรถไปรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสัก โดยในส่วนของแม่นั้นที่บริเวณข้อเท้ามีการฉีกขาดต้องเย็บหลายเข็ม ส่วนที่ลำตัว แขน ขา ก็มีบาดแผลหลายแห่ง หลังจากแพทย์ทำแผลให้แล้วก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน แต่ในส่วนของหลานสาวนั้นมีอาการหนักยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหล่มสัก เพราะใบหน้ากระแทกกับพื้น ทำให้เป็นแผลขนาดใหญ่ในปาก ต้องเย็บหลายเข็มเช่นเดียวกัน และมีบาดแผลทั่วทั้งลำตัว
อย่างไรก็ตามตนอยากจะให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าวกลับมารับผิดชอบ ในสิ่งทีเกิดขึ้น และอยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบโดยเร็ว เพราะขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพลักษณะรถไว้ได้ และเชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก็จะสามารถทราบรถคันที่ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน
