เพชรบูรณ์ – ชาวบ้านที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 200 คน รวมตัวกันชุมนุมคัดค้านการตั้งโรงงานหลอมอลูมิเนียมเก่า ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง พร้อมเดินรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจถึงพิษภัยของโรงงานดังกล่าว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ เนื่องจากเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วันที่ 20 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดบ้านโคกสะแกลาด หมู่ 4 บ้านโคกสะแกลาด ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ มีชาวบ้านบ้านโคกสะแกลาดและหมู่บ้านใกล้เคียง จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันชุมนุม พร้อมมีแกนนำและชาวบ้านที่มีประสบการณ์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปราศรัยโจมตีคัดค้าน การให้ใบอนุญาตตั้งโรงงานหลอมอลูมิเนียมเก่า ของบริษัทเอกชนต่างชาติรายหนึ่ง(ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจิ้นหงส์ฟาร์ รีไซเคิล) ที่มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในหมู่ที่ 4 บ้านโคกสะแกลาด ไปแล้วถึง 2 ครั้ง และในวันที่ 22 กันยายน ที่จะถึงนี้ จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนขึ้นอีก 1 ครั้ง โดยชาวบ้านที่มาชุมนุมหวั่นเกรงว่า ถ้ามีโรงงานหลอมอลูมิเนียมเก่า เกิดขึ้นในหมู่บ้านจริง อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ เพราะมีแต่สารเคมี สารพิษ และควันพิษ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งยังอาจทำให้อาชีพเกษตรกรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป ไม่อยากให้ลูกหลานที่จะเติบโตเป็นอนาคตของประเทศชาติ มารับสารพิษจากผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จำนวนหลายครั้งดังกล่าว อาจจะมีช่องว่างทางกฎหมายที่จะเปิดทางให้ มีการออกใบอนุญาตตั้งโรงงานหลอมอลูมิเนียมเก่าได้ เนื่องจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแต่ละครั้ง จะมีแต่ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านโคกสะแกลาด เพียงหมู่บ้านเดียว ขณะที่ชาวบ้านหมู่ที่ 12 บ้านรักไทย และหมู่ 14 บ้านคลองมะกอก ที่เชื่อมต่อกันและมีส่วนได้เสีย ชาวบ้านกลับไม่ได้รับโอกาสมาร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นด้วย
ต่อจากนั้นชาวบ้านที่มาชุมนุม ได้จัดตั้งขบวนถือป้ายพร้อมรถแห่เครื่องเสียง ออกเดินรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆรอบหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจถึงพิษภัยของโรงงานหลอมอลูมิเนียมเก่า ที่จะมาตั้งใกล้หมู่บ้าน พร้อมทั้งเชิญชวนให้ชาวบ้านออกมาร่วมคัดค้านการตั้งโรงงานดังกล่าว ในวันที่ 22 กันยายนนี้กันให้มากๆ
น.ส.ไกรศร โพธิ์งาม อายุ 45 ปี กล่าวว่า เรารู้ว่าโรงงานมีแต่สารพิษ ควันพิษ ไม่ได้มีผลดีกับพวกเรา ชีวิตพวกเราอยู่กับธรรมชาติมีอาชีพเกษตรกรรม ไม่อยากให้ลูกหลานที่จะเติบโตเป็นอนาคตของประเทศชาติ มารับสารพิษจากมลภาวะทางอากาศ หมู่บ้านที่จะได้รับผลกระทบหลายหมู่บ้านที่อยู่รอบๆ ไม่ใช่เฉพาะหมู่บ้านเรา ได้รับผลกระทบทั้งหมด 3 หมู่บ้านที่ห่างจากโรงงานราว 2 กิโลเมตร มีหมู่ 12 หมู่ 4 และหมู่ 14 โรงงานที่จะมาตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน โรงเรียนบ้านโคกสะแกลาดก็อยู่ที่หมู่ 4 สาเหตุที่ชาวบ้านตื่นตัวก็เกิดจากได้เห็นที่บ้านม่วงชุม ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านนี้ ได้รับผลกระทบจากโรงงานที่ส่งกลิ่นเหม็น ได้รับความเดือดร้อนทั้งชาวบ้าน และเด็กนักเรียน เนื่องจากโรงงานดังกล่าว อยู่ใกล้ชุมชนและโรงเรียน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านหมู่ 4 ต้องออกมาคัดค้านไม่ให้ตั้งโรงงานที่ชุมชนนี้ เพราะว่าสงสารเด็กๆที่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ พอพักกลางวันก็ออกมาเล่น ออกมาพักผ่อน เลิกเรียนก็กลับบ้านแล้วก็มาออกกำลังกาย ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของเด็กชนบท แต่ถ้ามีโรงงานเข้ามาก็ต้องเจอทั้งสารพิษและมลพิษทางอากาศ
นายองอาจ วงทองดี อายุ 47 ปี กล่าวว่า อยากจะให้ผู้ที่จะมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในหมู่บ้าน ให้ช่วยทบทวนใหม่ เพราะตนอยากจะรักษาสิ่งแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติดีกว่า เพราะว่าน้ำชาวบ้านก็ต้องเอามาทำน้ำประปา น้ำฝนชาวบ้านก็ยังต้องรองมาใช้ อากาศชาวบ้านต้องหายใจ ถ้าลมพัดไปทางทิศเหนือก็ไม่เป็นไร แต่เราบังคับลมไม่ได้ และสารพวกนี้เป็นสารหนักลอยลมมาตามอากาศได้ไม่กี่กิโลก็จะลง ไม่ใช่ว่าจะหายไปในอากาศ โรงงานแบบนี้น่าจะไปสร้างอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ที่มีมาตรการจัดการที่ถูกต้อง
