ประชาชนต่างพากันทยอยเดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนป่องกันโควิด-19 กันอย่างคึกคัก ใช้เวลาเพียงไม่นานคิวก็เต็มทำให้มีประชาชนบางส่วนไม่ได้รับบัตรคิวบางแต่ก็มีประชาชนบางส่วนยังคงรอจนปิดจุดบริการเพื่อรอวัคซีนที่เหลือจากการฉีดในแต่ละวัน
นครราชสีมา – วันนี้ (27 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชั้น 4 เซ็นทรัล นครราชสีมา พบมีประชาชนต่างพากันทยอยเดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนป่องกันโควิด-19 กันอย่างคึกคัก ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง 608 โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาจะเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไฟเซอร์ฝาส้ม ให้กับเด็ก อายุ 5-11 ปี จำนวน 250 โดส และในช่วงบ่ายจะเป็นการเปิดวอล์คอินฉีดไฟเซอร์ฝาม่วงให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 300 โดส ซึ่งเปิดรับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 11. 00 น. โดยหลังเปิดรับบัตรคิวก็ใช้เวลาเพียงไม่นานคิวก็เต็มทำให้มีประชาชนบางส่วนไม่ได้รับบัตรคิวบางแต่ก็มีประชาชนบางส่วนยังคงรอจนปิดจุดบริการเพื่อรอวัคซีนที่เหลือจากการฉีดในแต่ละวัน
โดยนางสาวอารียา ดาษจันทึก อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าวันนี้ตนและครอบครัวมารอรับบัตรคิวเพื่อจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ตอนเที่ยงครึ่งคิวก็เต็มแล้วจึงตัดสินใจที่จะรอถึงเวลาปิดจุดบริการ เพราะตนและครอบครัวต้องการที่จะเดินทางไปต่างประเทศเลยจำเป็นต้องฉีดวัคซีนอีกทั้งตนยังกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเพิ่งจะคลอดลูกมาเพียง 9 เดือน กลัวลูกจะได้รับอันตรายจึงจำเป็นต้องฉีดเอาไว้ก่อน ซึ่งก็โชคดีที่วันนี้หลังจากปิดจุดบริการแล้วยังมีวัคซีนเหลือทำให้ตนและครอบครัวได้ฉีดในครั้งนี้ แต่อยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับประชาชนมากกว่านี้ เพราะตนคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ทางด้านนพ.เจษฎ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วงนี้จะสังเกตุได้ว่าประชานชนให้ความสนใจที่จะมาขอรับวัคซีนเพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อนอยู่ที่ประมาณวันละ 500 คน แต่ช่วงนี้เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยวันละ 600-700 คน สาเหตุน่าจะมาจากที่ประชาชนส่วนหนึ่งจะใช้ช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้ครบและอีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากข่าวการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่จึงทำให้ประชาชนสนใจที่จะมาขอเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ประจำจุดฉีดวัคซีนที่เซ็นทรัลนครราชสีมาไม่เพียงพอจนเกิดความล่าช้าไปบ้าง เนื่องเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่ม 608 ซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลกว่า 200 ราย อย่างไรก็ตามถ้าหากสถานการณ์ของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทาง รพ.มหาราชอาจจำเป็นต้องวางแผนบริหารจัดการจุดฉีดวัคซีนที่เซ็นทรัลนครราชสีมา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนต่อไป
นายเพทย์เจศฎ์ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับในกรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 6 ปี ที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทางแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าสาเหตุกสรเสียชีวิตมาจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ทำให้ปอดอักเสบจนเสียชีวิต โดยประวัติของเด็กที่เสียชีวิตพบว่ามีอาการป่วยทางสมองโดยติดเชื้อมาจากบุคคลในครอบครัวและไม่พบประวัติการเข้สรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เหตุนี้ตนจึงอยากวอนประชาชนชาวโคราชให้มาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนในครอบครัวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้.
