ตำรวจเมืองน่าน จัดซ้อมแผนเผชิญเหตุ จำลองเหตุคนร้ายปล้นธนาคารกลางเมืองแบบเสมือนจริง ก่อนชิงเงินหนี เกือบทำคนไม่รู้ตกอกตกใจกันทั่วก่อนมาเฉลยทีหลัง
วันที่ 8 กันยายน 2565 เวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ร่วมกันฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองน่าน แบบเสมือนจริงขึ้น โดยจำลองเหตุการณ์ปล้นธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมี 2 คนร้ายขับขี่รถยนต์ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าธนาคาร แล้วชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คนสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าได้วิ่งตรงเข้ามาภายในธนาคาร ก่อนจะใช้อาวุธปืนพกสั้นสั่งการให้ลูกค้าที่มาใช้บริการหมอบลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ใช้ปืนบังคับข่มขู่ให้พนักงานสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ฝากเงิน ให้นำเงินสดส่งมอบให้ โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึงหนึ่งนาที ก่อนที่จะรีบวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าธนาคารขี่หลบหนีไปตามเส้นทางในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าประจำธนาคารได้รีบกดสัญญาณเตือนภัยไปที่ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เพื่อแจ้งเหตุร้าย จากนั้นพนักงานสอบสวน พร้อมตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน ได้รีบเข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมวิทยุสกัดจับคนร้ายที่ขี่รถหลบหนี และสั่งการให้จุดตรวจทั้งหมดให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเร่งด่วน จนเวลาผ่านไป 10 นาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับรถของคนร้ายได้ที่บริเวณถนนด้านหน้าโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารในเขตเทศบาลเมืองดู่ใต้
ซึ่งห่างจากธนาคารที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเหตุการณ์ซ้อมแผนในครั้งนี้เสมือนจริงมาก จนประชาชนที่ไม่ทราบเรื่องต่างตื่นเต้นตกใจนึกว่าเกิดเหตุปล้นธนาคารจริงๆ ชาวบ้านมาโล่งอกตอนที่ตำรวจเฉลยว่า “ทั้งหมดนี้คือการซ้อมแผนประจำปีเท่านั้น”
โดยการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุดังกล่าวเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และของตำรวจภูธรภาค 5 เนื่องจากการซ้อมบ่อยๆ ในทุกภาคส่วนจะได้เกิดความเข้าใจว่าเมื่อเกิดเหตุจริงจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งหากมีข้อติดขัดใดเจ้าหน้าที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจรวมถึงการจับกุม ก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการซ้อมเช่นนี้เดือนละ 1 ครั้ง และสับเปลี่ยนหมุนเวียนสถานที่ อาทิ ธนาคาร ร้านทอง มินิมาร์ท
โดยจะมีการแจ้งไปยังประชาชนให้รับทราบว่าจะมีการซ้อมล่วงหน้าป้องกันการตื่นตระหนก พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดน่านได้ฝากเตือนไปถึงประชาชน ว่าหากต้องประสบเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้น ประชาชนควรตั้งสติ และพยายามจดจำรูปพรรณสันฐานของคนร้าย ส่วนเรื่องการสกัดจับนั้นควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
