ชาวนากำแพงเพชรครวญ ปุ๋ยแพงขึ้นอีก ราคาน้ำมันก็สูงขึ้นด้วย สวนกระแสกับราคาข้าวที่ยังคงถูกแทบหากำไรไม่ได้ หยุดไปก็ไม่รู้จะมาหากินอะไร จำยอมเป็นชาวนาต่อไป
วันที่ 16 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงนาของนายบุญลือ เชื้อรอด อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 1 ต.เขาคีรีส อ.เมือง จ.กำแพงเพชร รถเกี่ยวข้าวกำลังเก็บข้าวอยู่ โดยนายบุญลือพร้อมครอบครัวรวมทั้งเจ้าของรถเกี่ยวและรถบรรทุกมาดูการเกี่ยวข้าว
จากการสอบถามบุญลือ เจ้าของนาข้าวถึงกรณีย์ที่กระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ขึ้นราคาปุ๋ยได้ตามสมควร โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนั้น นายบุญลือเปิดเผยว่า ชาวนาก็คงต้องลำบากแบกต้นทุนที่สูงมากขึ้น ตอนนี้ราคาข้าวเปลือกขายกันอยู่ที่เกวียนละไม่เกิน 7,200 บาทเท่านั้น
ส่วนการลงทุนเริ่มจากค่าไถนา ไปจนถึงการหว่านหรือดำนา การสูบน้ำเข้านา การฉีดยาคุมหญ้า การใส่ปุ๋ย ไล่ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เช่นการใช้รถเกี่ยวจนสุดท้ายบรรทุกไปขาย ทุกขั้นตอนต้องจ้างทั้งนั้น โดยเฉพาะปุ๋ย 1 ไร่ต้องหว่าน 3 ครั้งรวมกระสอบกว่า ซึ่งช่วงที่ซื้อปุ๋ยมาใส่ตกกระสอบละ 1,400-1,450 บาท ถ้าวันนี้กระทรวงพาณิชย์ปล่อยให้ราคาปุ๋ยสาสมารถขึ้นราคาได้เกษตรกรชาวนาจะยิ่งแย่ลงไปกว่าอีก โดยรวมแล้วการทำนา 1 ไร่จะต้องลงทุนไปไร่ละ 5,000 กว่าถึง 6,000 บาท
เมื่ออดีตต้นทุนออกมาแล้วเหลือกำไรนิดเดียวแทบจะขาดทุนด้วยซ้ำ จะเลิกไปทำอาชีพอื่นก็ทำไม่เป็น จึงต้องทนทำนาต่อไป แต่วอกรัฐบาลขอให้ช่วยเหลือค่าปุ๋ย ค่ายาล่าน้ำมันลงบ้าง และขอให้ช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้เกวียนละ 8,000 กว่าถึง 9,000 บาทชาวนาก็อยู่ได้แล้ว
ทางด้านนายสมพงษ์ นุ่มเกลี้ยง อายุ 48 ปี อยู่ยบ้านเลขที่ 56/5 หมู่ 5 ต.เขาคีรีส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เจ้าของรถเกี่ยวข้าวเปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันแพงขึ้น แต่ค่ารถเกี่ยวยังไม่ขึ้นราคา โดยเกี่ยวอยู่ที่ไร่ละ 450 บาท แต่จากที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นก็ต้อดูว่าที่ปรับราคาขึ้นหรือยัง ถ้าที่อื่นปรับขึ้นก็ต้องปรับตามด้วยเช่นกัน ส่วนสาเหตุตอนนี้ยังไม่ขึ้นราคาค่าเกี่ยวข้าว เพราะรู้สึกสงสารเห็นใจชาวนาเหมือนกันที่ต้องแบกภาระค่าปุ๋ยกับค่าน้ำมันที่แพงขึ้นมาก
