ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก จัดงานมหกรรมควายยักษ์เมืองสองแควและรำลึกวันอนุรักษ์ควายไทย ประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมการผลิตและพัฒนาตลาดควายไทยที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาการผลิตกระบือที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด เพิ่มมูลค่าการผลิตกระบือไทยของเกษตรกร กระตุ้นเลี้ยงและอนุรักษ์ความไทย
วันที่ 14 พฤษภาคม 65 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก ร่วมกันจัดงานมหกรรมควายยักษ์เมืองสองแคว ครั้งที่ 5 และรำลึกวันอนุรักษ์ควายไทย ประจำปี 2565 ขึ้น โดยมี นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัลให้ผู้ชนะการประกวดควาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิตและพัฒนาตลาดควายไทยที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาการผลิตกระบือที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด เพิ่มมูลค่าการผลิตกระบือไทยของเกษตรกร กระตุ้นเลี้ยงและอนุรักษ์ควายไทย บรรยากาศภายในงาน มีกระบือยักษ์มาโชว์ในงานนี้ได้แก่ เก้าเจริญ น้ำหนักตัว 1,350 ก.ก. ราคา 20 ล้าน น้องมะลิ อายุ 2 ปี 6 เดือน น้ำหนัก 1,000 ก.ก. จากบิ๊กไอซ์ฟาร์มควายไทย เพชรมังกร กระบือเผือก น้ำหนัก 929 ก.ก. จากเกษมฟาร์มอนุรักษ์ควายไทยจังหวัดพิจิตร เจ้ายิ่งใหญ่ น้ำหนัก 1,470 ก.ก.จากบุญเกิดฟาร์ม จังหวัดหนองบัวลำภู ตะวันฉาย น้ำหนัก 1,390 ก.ก. จากไทยชนะฟาร์ม จังหวัดนครราชสีมา
![](https://www.phetchabun.online/wp-content/uploads/2022/05/IMG_8294.jpg)
นายสุริพล มาบุญช่วย ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ปัจจุบันกระบือไทยและผู้เลี้ยงกระบือมีแนวโน้มลดลง ข้อมูลกรมปศุสัตว์ พ.ศ. 2562 คงเหลือ 1,226,785 ตัว จากปัญหาการใช้เครื่องจักรกลแทนการใช้แรงงานกระบือ พื้นที่เลี้ยงลดเนื่องจากเกษตรกรใช้พื้นที่ทำการเกษตรอย่างอื่น ที่ได้รับผลตอบแทนเร็วกว่าและมากกว่า ประกอบกับความต้องการบริโภคเนื้อกระบือเพิ่มขึ้น และเกษตรกรยังขาดการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์กระบือที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ขาดการเชื่อมโยงการตลาด นอกจากนี้ไทย ยังมีการส่งออกกระบือมีชีวิตไป ประเทศจีน และเวียดนามอย่างต่อเนื่อง สำหรับจังหวัดพิษณุโลกมีเกษตรกรเลี้ยงกระบือ จำนวน 20,658 ตัว เกษตรกร 2,210 ราย กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่กระบือ จำนวน 6 กลุ่ม ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงกระบือ จำนวน 2 ศูนย์ และศูนย์กระจายน้ำเชื้อมาตรฐานบิ๊กไอซ์ควายไทย จำนวน 1 แห่ง จากศักยภาพดังกล่าวจังหวัดพิษณุโลกจึงส่งเสริมพัฒนาและจัดประกวดกระบือไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ.2559 เป็นต้นมา
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดกระบือพื้นเมือง ชิงถ้วยเกียรติยศของผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก และเงินรางวัล จำนวน 3 ประเภท ซึ่งมีกระบือจากทั่วประเทศส่งเข้าประกวด คือ กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันน้ำนม (เพศเมีย/เพศผู้) , รุ่นฟันแท้ 1-2 คู่ (เพศเมีย/เพศผู้) , รุ่นฟันแท้ 3 คู่ (เพศเมีย/เพศผู้) ประเภทกระบือเผือก รุ่นฟันน้ำนม (เพศผู้/เพศเมีย) ประเภทกระบือแคระ (เพศผู้/เพศเมีย) กิจกรรมรำลึกวันอนุรักษ์ควายไทย อาทิ การสู่ขวัญควาย และการอ่านสาสน์ของสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย
สำหรับผลการประกวดกระบือ
รุ่นที่ 1 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันน้ำนม เพศเมีย ส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร รางวัลชนะเลิศ “น้ำหนึ่ง” เหรียญทองฟาร์ม จ.นครพนม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “หน้าหวาน” จ่าแบงค์ฟาร์มควายไทย ต.ดอนทอง จ.พิษณุโลก รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “ดาหลา” เรือนไทยควายงาม จ.อ่างทอง
รุ่นที่ 2 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้ ส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร รางวัลชนะเลิศ “เดอะร็อค” นายนครินทร์ เลิศศิริกรณ์กุล จ.สระบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “บิ๊กแบงค์” บ้านสปาควายไทย จ.พิษณุโลก รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “แสงทอง” ฟาร์มสุขใจ จ.พิษณุโลก
รุ่นที่ 3 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันน้ำนม เพศเมีย ส่วนสูงมากกว่า 140 เซนติเมตร รางวัลชนะเลิศ “เพชรมณี” มะขามเฒ่าฟาร์ม จ.ชัยนาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ทองทิพย์” ชนะชนฟาร์ม จ.ขอนแก่น รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “ไข่มุก” แพรวาฟาร์ม จ.กาฬสินธุ์
รุ่นที่ 4 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้ ส่วนสูงมากกว่า 140 เซนติเมตร รางวัลชนะเลิศ “มารวยจูเนียร์” นายคำพูล โสดา จ.เพชรบูรณ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ช้างเศรษฐี” ทุ่งเศรษฐีฟาร์ม จ.ศรีสะเกษ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “เก้านคร” กลมพรรณฟาร์ม จ.เชียงใหม่
รุ่นที่ 5 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันแท้ 1-2 คู่ เพศเมีย รางวัลชนะเลิศ “ดาวเรือง” แพรวาฟาร์ม จ.กาฬสิทธุ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “เก้ากะรัต” นายคำนวณ เทพารักษ์ จ.เลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “น้ำเพชร” เพชรฐากูลฟาร์ม จ.นครนายก
รุ่นที่ 6 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันแท้ 1-2 คู่ เพศผู้ รางวัลชนะเลิศ “ไผ่ทองจูเนียร์” เพชรปอประจักษ์ฟาร์ม จ.อุดรธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “มหาชน” นายชัยวิชิต มะโนศิลป์ จ.เพชรบูรณ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “วู้ดดี้” อัศวินฟาร์ม จ.เชียงใหม่
รุ่นที่ 7 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันแท้ 3 คู่ เพศเมีย รางวัลชนะเลิศ “งามตา” รื่นเริงฟาร์มควายงาม จ.อุบลราชธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “โบว์เงิน” นายอุดม ปารี จ.เพชรบูรณ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “ดวงใจ” นายคำนวณ เทพารักษ์ จ.เลย
รุ่นที่ 8 กระบือพื้นเมืองสีดำ รุ่นฟันแท้ 3 คู่ เพศผู้ รางวัลชนะเลิศ “โชคมงคล” รื่นเริงฟาร์มควายงาม จ.อุบลราชธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ควายล้าน” ประสบโชคฟาร์มควายไทย จ.กำแพงเพชร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “เทพนคร” คอกจงเจริญควายไทย จ.พิษณุโลก
รุ่นที่ 9 กระบือพื้นเผือก รุ่นฟันน้ำนม เพศเมีย รางวัลชนะเลิศ “พรฟ้า” นายวุฒิชัย แสงลา จ.อุดรธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “เนื้อทอง” นายปานแดง ยนขุนทด จ.กำแพงเพชร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “ดอกแก้ว” นายปิยะพงษ์ เพียรชนา จ.กาฬสินธุ์
รุ่นที่ 10 กระบือเผือก รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้ รางวัลชนะเลิศ “ช้างเผือก” นายเชิดศักดิ์ พลเสช จ.หนองบัวลำภู รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “โรนัลโด้” นายกิตตินันท์ อันทะเกษ จ.นครราชสีมา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “บุญหรั่ง” น.ส.รัตนติกานต์ บุญแต้ม จ.ลำปาง
รุ่นที่ 11 กระบือแคระ รุ่นฟันน้ำนม เพศเมีย รางวัลชนะเลิศ “ข้าวสาร” ธวัฒน์ชัยฟาร์ม จ.มหาสารคาม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ข้าวปลาย” ธวัฒน์ชัยฟาร์ม จ.มหาสารคาม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “ถุงเงิน” ว่าที่ร้อยตรี ชลพรรช ใจงาม จ.ตาก
รุ่นที่ 12 กระบือแคระ รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้ รางวัลชนะเลิศ “สังข์ทอง” น.ส.รินทร์ลภัส ศักดาวงศ์หิรัญ จ.เลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ข้าวกล้อง” ธวัฒน์ชัยฟาร์ม จ.มหาสารคาม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 “กะปิ” นายธนทัต คชวี จ.พิจิตร
รางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยม (Grand Champion) กระบือพื้นเมืองสีดำ เพศเมีย ได้แก่ “เพชรมณี” มะขามเฒ่าฟาร์ม จ.ชัยนาท
รางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยม (Grand Champion) กระบือพื้นเมืองสีดำ เพศผู้ ได้แก่ “โชคมงคล” รื่นเริงฟาร์มควายงาม จ.อุบลราชธานี