เพชรบูรณ์ – เจ้าของร้านขายของชำสุดงง เดินทางนำคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความ กลับต้องอึ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้กลับไปหาชื่อ-นามสกุล เจ้าหัวขโมยมาให้
วันที่ 23 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า Sii Siriporn Tupmebun ได้โพสต์คลิปวีดีโอจากภาพกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความ ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า “*โจร* ช่วงนี้ข้าวยากหมากแพง ระมัดระวังโจรกันด้วยนะคะ คงทำได้แค่โพสลงเฟตเตือนเพื่อนๆนะคะให้ระวังกันเองด้วย เพราะแจ้งความกับตำรวจไม่มีการมาตรวจสอบใดๆทั้งสิ้น แถมบอกให้เราไปหาชื่อ นามสกุลคนร้ายมาให้ด้วย จะบร้าไปแล้วๆๆๆๆ ใครคุ้นหน้าคุ้นตาช่วยแจ้งมาในอินบล็อคด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่นว่า “หน้าที่จับคนร้ายคือหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษงั้นจะไปแจ้งความเพื่ออะไร บ้าไปแล้ว, ถ้าเรารู้ขนาดนั้นเราก็ไปจัดการเองเเล้ว ใช่ม่ะ, น่ากลัวมากมิจฉาชีพเยอะขึ้นทุกๆวัน, มีอะไรหายมากไหมนอนที่รา้นหรือระวังนะมันจะตอ้งมาอีก, ของหายไม่มากค่ะ แต่โจรมันเลือกเป็น เอาเครื่องต๋อยแบบเป็นแผงไปค่ะ รู้ด้วยว่าเบาแต่ราคาแพงค่ะ, มีรอยสักแขนซ้าย, อยู่ยากทุกวัน”
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟสบุ๊คดังพร้อมเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 740 หมู่ที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่หน้าตลาดสดหนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเปิดเป็นร้านโชห่วยและขายของชำ จำหน่ายสินค้าประเภทอาหารแห้ง และอาหารสด พบ นายสิทธิเดช ทัพมีบุญ อายุ 40 ปี และนางศิริพร ทัพมีบุญ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน และเป็นเจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าว
นายสิทธิเดช ทัพมีบุญ เล่าว่า จากภาพกล้องวงจรปิด เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.63 โดยจะเห็นภาพหัวขโมยไม่ใส่เสื้อมาเดินวนเวียนอยู่หน้าร้าน แล้วก็เดินออกไป ผ่านไปสัก 5 นาทีก็กลับมาอีก แต่สะพายกระเป๋ามาด้วย และได้ขโมยบะหมี่สำเร็จรูปกล่องใหญ่ และเครื่องต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวกล่องใหญ่ ซึ่งเป็นของที่รถขนส่งสินค้ามาส่งและวางไว้ ที่หน้าร้านซึ่งทำแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ ตนคิดว่าอาจเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีโจรซุกชุม และไม่กี่วันมานี้ร้านกาแฟถัดจากร้านตนเองไปก็โดนงัด ไม่รู้ว่าเป็นคนคนเดียวกับที่มาขโมยของร้านตนหรือเปล่า
และเมื่อวันที่ 13 ส.ค.63 ที่ผ่านตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองไผ่ พร้อมมอบไฟล์วีดีโอกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับบอกให้ตนไปหาชื่อ-นามสกุล ของเจ้าหัวขโมยมาให้ จนกระทั่งวันนี้ (23 ส.ค.63) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ถ่ายที่เกิดเหตุ ตนจึงคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้เราคงต้องดูแลตัวเองและไปจับคนร้ายเองน่าจะง่ายกว่า
ด้านนางศิริพร ทัพมีบุญ กล่าวว่า ช่วงนี้ต้องระวังตัวให้มากขึ้น และให้คนที่มาส่งของโทรแจ้งเมื่อมาส่งของ เพื่อที่จะรีบเก็บของเข้าบ้าน เพื่อความปลอดภัย ขายของมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน และน่าจะเกิดจากเศรษฐกิจไม่ดี ช่วงนี้ผู้คนลำบากกันมากไม่มีเงินใช้ ตนจึงอยากให้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลประชาชนให้ดีกว่านี้ อย่ามองว่าเป็นแค่คดีเล็กๆ ก็ไม่มาดูแลประชาชน แบบนี้
