เพชรบูรณ์ – หนุ่มวัย 25 ปี ขับรถพลิกคว่ำหลายตลบ กลางยูเทิร์น รู้ตัวอีกทีรถตะแคงอยู่กับพื้น รถพังยับเยิน แต่คนขับปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน เชื่อบารมีหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน คุ้มครอง
วันที่ 10 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า ปอนด์ ปริม ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความว่า “บารมีหลวงพ่อพัฒน์ เหมือนฝันแล้วตื่นมาเลย ไม่คิดว่าจะรอดมาได้ สาธุ..สาธุ.. แต่ไม่เป็นอะไรเลย ดูจากสภาพรถเอาคับ ” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ปรากฎว่ามีคนเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากว่ารอดมาได้อย่างไร และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร ทั้งๆ ที่คืนเกิดเหตุคนขับไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟสบุ๊คดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายธีศักดิ์ ทองมี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 4 ต.ซับน้อย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยเล่าว่าคืนเกิดเหตุ คือ คืนวันที่ 7 ส.ค.63 เวลาประมาณ 01.30 น. ตนเองขับรถโตโยต้า วีโก้ สีเขียว ทะเบียน ผก 7942 เพชรบูรณ์ มาเพียงคนเดียวเพื่อที่จะไปบ้านแฟนโดยได้แวะเติมน้ำมันระหว่างทาง เมื่อเติมเสร็จแล้วก็ออกจากปั๊ม ซึ่งขณะนั้นได้เกิดฝนตกปรอย ๆ และขับออกจากปั๊มมาได้เพียงไม่กี่กิโลเมตร บริเวณก่อนถึงจุดยูเทิร์น หน้าสำนักงานไปรษณีย์ อ.บึงสามพัน ซึ่งเป็นทางโค้งรถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบตกลงไปอยู่ข้างทาง


ซึ่งระหว่างนั้นตนก็ตัวดีแต่หลังจากรู้ว่ารถหมุนก็เหมือนกับตัวเบาและวูบไป มารู้ตัวอีกทีก็พบว่ารถก็ได้ตะแคงแน่นิ่ง โดยมีกู้ภัยและชาวบ้านมุงอยู่อยู่ห่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เมื่อตนรู้สึกตัวก็ตะเกียกตะกายออกมาจากรถพร้อมทั้งสำรวจตัวเองก็พบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บแม้กระทั่งรอยขีดข่วนแต่อย่างใด เป็นที่น่าแปลกใจมาก แม้กระทั่งอาสากู้ภัยที่มาช่วยเหลือเห็นตนแน่นิ่งไป พร้อมกับสภาพรถที่ยับเยินทุกคนต่างบอกว่าตนเสียชีวิตแล้ว

เมื่อเห็นว่าตนไม่เป็นอะไรเลยต่างก็มาขอดูว่าแขวนพระอะไร ซึ่งพระที่ตนเองห้อยคอนั้นเป็นเหรียญรูปเหมือนและพระกริ่งพระหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งตนแขวนติดตัวมาโดยตลอดหลายปีแล้ว และตนก็เชื่อว่าการที่ตนรอดตายและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยจากอุบัติเหตุครั้งนี้ เนื่องมาจากพุทธคุณของพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์อย่างแน่นอนและหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้วตนก็ได้ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมรวมทั้งทำความสะอาดวัดห้วยด้วยมาโดยตลอด อีกทั้งเป็นการทำบุญต่ออายุเพราะตนก็อายุเบญจเพสพอดี
นายธีศักดิ์ ทองมี เปิดเผยอีกว่า วันนี้(10 ส.ค.2563)ตนได้มีโอกาสไปดูสภาพรถอย่างละเอียดอีกครั้งก็พบว่าได้รับความเสียหายยับเยินไปทั้งคัน แทบไม่น่าเชื่อว่าตนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ซึ่งจากสภาพรถดังกล่าวทำให้ไม่สามารถที่จะซ่อมได้เลย มีเพียงขายเป็นเศษเหล็ก โดยในเบื้องต้นช่างประเมินไว้ในราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาท สำหรับรถคันดังกล่าวก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุตนได้ตกแต่ง อะไหล่และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมแล้วมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท และตนก็ดูแลอย่างดี ส่วนอุบัติเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากถนนลื่นประกอบกับเป็นทางโค้ง โดยเฉพาะบริเวณดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วหลายรายและก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายรายเช่นเดียวกัน


บุรฉัตร ศิริวัฒนาเกษม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์