เพชรบูรณ์ – สนธิกำลัง 3 หน่วยงาน นำโดยฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบการปิดสถานบริการ ตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรค พบเยาวชน 6 ราย ออกเที่ยวราตรี กิน ดื่ม เป็นที่สบายใจ ไม่สนใจโควิด-19

วันที่ 19 มีนาคม 2563 ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธาน ได้มีประกาศเรื่องมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเพชรบูรณ์ (ฉบับที่ 1) ได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 18-31 มี.ค.63 ดังนี้ 1. การป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ 2.การยับยั้งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อฯ จังหวัดเพชรบูรณ์


เวลาประมาณ 21.00-22.30 น. นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย นายวีระวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ ป้องกันจังหวัดเพชรบูรณ์, นายสมศักดิ์ หลวงเทพ และนายสรศาสตร์ อ่อนสุระทุม ปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นำกำลังร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์, สาธารณะสุข อ.เมืองเพชรบูรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจสอบแนะนำ และประชาสัมพันธ์เจ้าของสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ บริเวณ ถ.กลางเมืองพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 7 ร้าน เจ้าของสถานประกอบการมีความเข้าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ และยินดีให้ความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐเป็นอย่างดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้ตรวจสอบร้านแห่งหนึ่งในบริเวณเดียวกัน ซึ่งเป็นสถานประกอบการขายอาหาร ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากการตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าว มีการเปิดเพลงจากเครื่องขยายเสียงเพื่อความบันเทิงของลูกค้าภายในร้าน และพบเยาวชนจำนวน 6 ราย นั่งเป็นลูกค้าใช้บริการอยู่ภายในร้าน โดย 1 ราย นั่งรับประทานอาหาร และอีก 5 ราย ที่เหลือนั่งล้อมวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่รวมกันมีแก้วประจำตัวบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแต่ละคนวางอยู่ตรงหน้า และมีเครื่องดื่มโซดาวางอยู่บนโต๊ะอีกจำนวนหลายขวด
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมเยาวชนทั้ง 6 ราย พกบัตรประจำตัวประชาชน 2 ราย และอีก 4 รายไม่สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ การที่เจ้าของร้านยินยอมให้เยาวชนทั้ง 6 รายเข้ามานั่งรับประทานอาหารและมีการล้อมวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วยกันภายในร้าน ประกอบกับการที่เจ้าของร้านปล่อยปละละเลยไม่ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้าซึ่งเป็นวิสัยที่เจ้าของร้านสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าเป็นเยาวชนและมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ภายในร้านที่ตนเองดูแลอยู่ จึงเป็นการเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน


เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวข้างต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของร้านอาหารข้างต้น ในข้อหา “ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด” ฝ่าฝืน ม.26(3) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน สถานบริการ สถานประกอบการ และสถานที่ต่างๆ ตามประกาศเรื่องมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเพชรบูรณ์ (ฉบับที่ 1) หากฝ่าฝืน ม.35 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหากไม่มีการกักกันตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน (นับจากวันที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ) ก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย
594 total views, 1 views today